AirPods 3 เป็นหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Apple ที่มีคุณสมบัติเด่นด้านเสียงและการออกแบบ ในบทความนี้ เราจะมาดูว่า หูฟัง AirPods 3 มีอะไรน่าสนใจ ดีไหม ทำอะไรได้บ้าง รวมถึงจะสรุปข้อดีและข้อเสียมาให้คุณได้อ่านด้วย
หูฟัง AirPods 3 ใช้เทคโนโลยี Personalized Spatial Audio ที่สร้างเสียงรอบทิศทางสำหรับการเล่นเพลง ฟังเสียงจากภาพยนตร์ และอื่น ๆ โดยปรับเสียงตามการเคลื่อนไหวของหัวของคุณ ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องคอนเสิร์ตหรือโรงภาพยนตร์ของคุณเอง นอกจากนี้ AirPods 3 ยังใช้ Adaptive EQ ที่ปรับเสียงเพลงให้เหมาะกับหูของคุณ และไดรเวอร์แบบไดนามิก ที่ให้เสียงดนตรีที่มีคุณภาพรายละเอียดสูง
หูฟัง AirPods 3 ถูกออกแบบมาโดยเน้นความสวยงามและความสะดวกสบาย ด้วยรูปร่างที่เข้ากับหู Force sensor ที่ทำให้ควบคุมสั่งงานได้ง่าย และมีความทนทานต่อทั้งน้ำและเหงื่อ คุณสามารถเลือกกล่องชาร์จแบบ Lightning หรือแบบ MagSafe ที่ใช้การชาร์จไร้สายผ่านแผ่น MagSafe หรือเครื่องชาร์จที่มีมาตรฐาน Qi แบตเตอรี่ของ AirPods 3 ให้เวลาฟังเพลงได้สูงสุด 6 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จครั้งเดียว และสูงสุด 30 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จในกล่อง
หูฟัง AirPods 3 เข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 15 หรือใหม่กว่า ได้แก่ iPhone, iPad, iPod touch, Apple Watch, Apple TV, และ Mac นอกจากนี้ AirPods 3 ยังเข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android หรือ Windows ที่มี Bluetooth 5.0 หรือใหม่กว่า คุณสามารถเชื่อมต่อ AirPods 3 กับอุปกรณ์ของคุณได้ง่าย ๆ ด้วยการเปิด AirPods 3 ในกล่องชาร์จ แล้วนำมาใกล้อุปกรณ์ของคุณ หรือใช้คำสั่งเสียง “Hey Siri” เพื่อสั่งการเล่นเพลง โทรศัพท์ หรือสั่งงานอื่นๆ
หูฟังไร้สาย AirPods (3rd gen)
Lightning Charging Case ควบคุมการรับหรือวางสาย เรียกใช้งาน Siri ด้วยการพูดว่า หวัดดี Siri สามารถทนเหงื่อและน้ำได้ ฟังได้นานรวมสูงสุด 30 ชั่วโมง พอร์ตการเชื่อมต่อ Lightning, รองรับ Bluetooth 5.0 ...
เสียงที่เหนือกว่า
AirPods 3 มีเทคโนโลยีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Apple ได้แก่
- Personalized Spatial Audio ที่สร้างเสียงรอบทิศทางสำหรับเพลง และอื่นๆ โดยปรับเสียงตามการเคลื่อนไหวของหัวของคุณ ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องดูหนังหรือดูคอนเสิร์ต
- Adaptive EQ ที่ปรับเสียงเพลงให้เหมาะกับหูของคุณ โดยใช้ไมโครโฟนภายในตรวจจับเสียงที่คุณได้ยิน แล้วปรับความถี่ต่ำและกลางให้เหมาะสมกับรายละเอียดในทุกเพลง โดยปรับเปลี่ยนแบบเรียลไทม์
- ไดรเวอร์แบบไดนามิก ที่ออกแบบโดย Apple และขับเคลื่อนโดยแอมป์ที่กำหนดเอง ให้เสียงดนตรีที่มีคุณภาพรายละเอียดสูง ทำให้คุณได้ยินทุกโน้ต จากเบสลึก ๆ ถึงเสียงสูงใส ๆ
การออกแบบที่เหมาะสม
หูฟัง AirPods 3 ถูกออกแบบมาโดยเน้นให้มีความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ และใช้งานได้สะดวกสบาย ได้แก่ รูปร่างที่เข้ากับหู ด้วยการออกแบบที่เป็นเส้นโค้งและบอดี้สั้น ทำให้ AirPods 3 สามารถเข้ากับหูของคุณได้ดี และมีลักษณะที่ดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์, Force sensor ที่ให้คุณควบคุมการเล่นเพลง รับสาย หรือเปิด Siri ได้ง่าย ๆ ด้วยการกดเบา ๆ บนตัวของ AirPods 3, ทนทานต่อน้ำและเหงื่อ AirPods 3 และกล่องชาร์จได้รับการป้องกันให้ทนทานต่อน้ำและเหงื่อตามมาตรฐาน IPX4 ทำให้คุณสามารถใช้ AirPods 3 ได้ในสภาวะอากาศหรือการออกกำลังกายที่หลากหลาย
แบตเตอรี่ที่ยาวนาน
AirPods 3 มีแบตเตอรี่ที่ใช้ฟังเพลงและพูดคุยได้นานหลายชั่วโมง โดยมีวิธีชาร์จที่หลากหลาย ได้แก่
- กล่องชาร์จแบบ Lightning ที่สามารถใช้สาย Lightning เชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟ
- กล่องชาร์จแบบ MagSafe ที่สามารถชาร์จแบบไร้สายผ่านแผ่น MagSafe หรือเครื่องชาร์จที่มีมาตรฐาน Qi หรือใช้สาย Lightning เชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟ
- เวลาฟังเพลง สูงสุด 6 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จครั้งเดียว (สูงสุด 5 ชั่วโมง เมื่อเปิด Personalized Spatial Audio)
- เวลาฟังเพลง สูงสุด 30 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จในกล่อง
- เวลาพูดคุย สูงสุด 4 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จครั้งเดียว
- เวลาพูดคุย สูงสุด 20 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จในกล่อง
- ชาร์จแบบเร่งด่วน 5 นาทีในกล่อง สามารถฟังเพลงหรือพูดคุยได้นานประมาณ 1 ชั่วโมง
เชื่อมต่อที่ง่ายดาย
หูฟัง AirPods 3 ถูกออกแบบมาให้สามารถเชื่อมต่อที่รวดเร็วด้วยระบบอัจฉริยะ ได้แก่ Bluetooth 5.0 ที่ให้การเชื่อมต่อไร้สายที่มีความเสถียรสูง, H1 headphone chip ที่ให้สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้ราบรื่นกว่า, Always-on “Hey Siri” ที่ให้คุณสั่งการเล่นเพลง โทรศัพท์ หรือสั่งงานต่างๆ ด้วยเสียงของคุณ, Skin-detect sensor ที่รู้ว่าคุณสวมใส่หรือถอด AirPods 3 ออก และเล่นหรือหยุดเสียงได้อัตโนมัติ
ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ
หูฟัง AirPods 3 เข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 15 หรือใหม่กว่า ได้แก่ iPhone, iPad, iPod touch, Apple Watch, Apple TV, และ Mac นอกจากนี้ AirPods 3 ยังเข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android หรือ Windows ที่มี Bluetooth 5.0 หรือใหม่กว่า อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติบางอย่างของ AirPods 3 เช่น Personalized Spatial Audio, Adaptive EQ, Always-on “Hey Siri” และ Skin-detect sensor จะทำงานได้เฉพาะกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 15 หรือใหม่กว่าเท่านั้น
วิธีการเชื่อมต่อ AirPods 3 กับอุปกรณ์ต่าง ๆ
อย่างแรกคือการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 15 หรือใหม่กว่า: เปิด AirPods 3 ในกล่องชาร์จ แล้วนำมาใกล้อุปกรณ์ของคุณ จะมีหน้าจอแสดงขึ้นบนอุปกรณ์ของคุณ แตะ Connect เพื่อเชื่อมต่อ AirPods 3 กับอุปกรณ์ของคุณ
แนวทางที่สอง การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android หรือ Windows: เปิด AirPods 3 ในกล่องชาร์จ แล้วกด Force sensor ค้างไว้จนกว่าไฟ LED ที่อยู่บนกล่องชาร์จจะกระพริบสีขาว จากนั้น เปิด Bluetooth บนอุปกรณ์ของคุณ แล้วค้นหา AirPods 3 ในรายการอุปกรณ์ที่พร้อมเชื่อมต่อ แตะ AirPods 3 เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณ
วิธีการเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ AirPods 3
อย่างแรกคือการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 15 หรือใหม่กว่า: คุณสามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ AirPods 3 ได้ง่าย ๆ ด้วยการเลือก AirPods 3 จาก Control Center หรือ Lock Screen บนอุปกรณ์ที่คุณต้องการใช้ หรือใช้คำสั่งเสียง “Hey Siri” เพื่อสั่งให้ Siri เปลี่ยนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ AirPods 3 ให้คุณ
อย่างที่สอง การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android หรือ Windows: คุณต้องยกเลิกการเชื่อมต่อ AirPods 3 กับอุปกรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่ แล้วเชื่อมต่อ AirPods 3 กับอุปกรณ์ใหม่ที่คุณต้องการใช้ ด้วยวิธีการเชื่อมต่อที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น
สรุปข้อดีและข้อเสียของหูฟัง AirPods 3
- ข้อดี
- เสียงที่เหนือกว่า ด้วยเทคโนโลยี Personalized Spatial Audio, Adaptive EQ, และไดรเวอร์แบบไดนามิก ที่ให้เสียงรอบทิศทาง ปรับเสียงเพลงให้เหมาะกับหูของคุณ และมีคุณภาพรายละเอียดสูง
- การออกแบบที่เหมาะสม ด้วยรูปร่างที่เข้ากับหู Force sensor ที่ให้ควบคุมได้ง่าย และความทนทานต่อน้ำและเหงื่อ
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน ด้วยเวลาฟังเพลงสูงสุด 6 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จครั้งเดียว เวลาฟังเพลงสูงสุด 30 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จในกล่อง และการชาร์จแบบเร่งด่วน
- การเชื่อมต่อที่ง่ายดาย ด้วย Bluetooth 5.0 H1 headphone chip Always-on “Hey Siri” และ Skin-detect sensor ที่ให้การเชื่อมต่อไร้สายที่มีความเสถียรสูง การเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้ราบรื่น การสั่งการด้วยเสียงได้อัตโนมัติ และการเล่นหรือหยุดเสียงอัตโนมัติ
- ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 15 หรือใหม่กว่า หรืออุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android หรือ Windows ที่มี Bluetooth 5.0 หรือใหม่กว่า
- ข้อเสีย
- ราคาที่สูง ราคาของ AirPods 3 อยู่ที่ 6,900 บาท สำหรับรุ่นที่มีกล่องชาร์จแบบ Lightning และ 7,900 บาท สำหรับรุ่นที่มีกล่องชาร์จแบบ MagSafe ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าหูฟังไร้สายของแบรนด์อื่น ๆ บางรุ่น
- ไม่มีการป้องกันเสียงรบกวน หรือ noise cancellation โดยที่ AirPods 3 ไม่มีการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก ซึ่งอาจทำให้คุณได้ยินเสียงที่รบกวนการฟังเพลงหรือพูดคุย ถ้าคุณต้องการหูฟังที่มีการป้องกันเสียงรบกวน คุณอาจต้องเลือก AirPods Pro หรือ AirPods Max แทน
- คุณสมบัติบางอย่างทำงานได้เฉพาะกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 15 หรือใหม่กว่า ถ้าคุณใช้อุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android หรือ Windows คุณจะไม่สามารถใช้คุณสมบัติเช่น Personalized Spatial Audio, Adaptive EQ, Always-on “Hey Siri” และ Skin-detect sensor ได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น